อย่า "มีเซ็กซ์" (Having Sex)
แต่จง "ร่วมรัก" (Making Love)
คำว่า เซ็กซ์ (Sex) เข้ามามีบทบาทมากขึ้นในสังคมทุกวันนี้
คนจะชินกับคำว่า "มีเซ็กซ์" กัน
ทั้งหญิงชายต่างแสวงหาคนถูกตาถูกใจ แล้วก็พร้อมมีเซ็กซ์
บางทียังไม่ถูกใจมากนัก เพียงแต่ถูกตา ก็มีเซ็กซ์กันได้ง่ายๆ แล้ว
ผม เคยสัมภาษณ์หนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่นิยมไปเที่ยวตามสถานเริงรมย์ เช่น ผับ ฝ่ายชายบอกว่าเพียงเข้าไปนั่งดื่มหมายตาสาวสวยที่ถูกตา เข้าไปคุย ถ้าถูกตาถูกใจก็ชวนไปต่อและมีเซ็กซ์กันได้เลย
บางหนุ่มหุ่นดี หน้าตาดี ก็จะมีสาวๆ เข้ามาคุยและชวนไปต่อ ไปมีเซ็กซ์กันได้เลยเช่นกัน
สถาน ที่ก็เป็นห้องเช่า อพาร์ทเมนต์ของฝ่ายหญิงเป็นส่วนใหญ่ หรือตามโรงแรม ฝ่ายชายบอกว่าไม่อยากพาไปที่อยู่ของเขาเพราะกลัวฝ่ายหญิงติดพัน
ถามว่ามีการจ่ายเงินเป็นค่าตัวไหม เขาบอกว่าไม่ต้องจ่าย เพราะเป็นความสมัครใจของทั้งคู่
เมื่อจบแล้วก็จบกันไป อาจจะโทรฯหาคุยกัน หรือพบกันอีกสักครั้งสองครั้งแล้วก็จบไป
ส่วนใหญ่จะบอกก่อนมีเซ็กซ์ว่าไม่มีอะไรผูกพันกันนะ ต่างคนต่างอิสระซึ่งอีกฝ่ายหนึ่งก็ยินยอม
นี่คือวัฎจักรของการมีเซ็กซ์ของคนรุ่นใหม่ ซึ่งมีแล้วก็จาก จางกันไปแล้วก็หาใหม่
การมีเซ็กซ์ (Having Sex) แบบนี้ไม่ได้เกิดจากความรักและความผูกพัน
เป็นเพียงแค่ได้ระบายแรงขับทางเพศออกไป หรือได้สัมผัสร่างกายของอีกฝ่ายหนึ่งที่ตัวเองชื่นชอบเท่านั้น
จึงเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่มีมิติ ไม่มีความลึก หรือลึกซึ้งทางจิตใจ
ถ้าเป็นรูปภาพก็มีเพียงแค่ความกว้างกับยาวเท่านั้น แต่ไม่มีความลึก
กิจกรรม แบบนี้จึงเป็นกิจกรรมทางเพศที่แสดงถึงความเห็นแก่ตัว ไม่อ่อนโยน ไม่รับผิดชอบ มีแค่สนุกและระบายราคะ ซึ่งต่างเห็นแก่ตัวและตักตวงเท่านั้น
แต่ ถ้าเป็นการร่วมรัก (Making Love) กับคนที่เรารักและผูกพัน จะเป็นเหมือนการสร้างความสัมพันธ์ที่มีมิติ มีความลึก(ลึกซึ้ง) มีความอ่อนโยน แคร์ รับผิดชอบ และมีความหมายกับชีวิต
ช่วง นั้น...ช่วงกำลังร่วมรักเราได้มีโอกาสใช้ใจสัมผัสใจอีกฝ่ายหนึ่งจะมีความ อ่อนโยน ใส่ใจ ไม่เห็นแก่ตัว มีความเป็นผู้ให้ปรากฏขึ้นทั้งสองฝ่าย
การ ที่เราจะหาคนที่เรารักเขา และเขารักเราเพื่อร่วมรักด้วย จึงไม่ใช่ของง่าย แต่ก็ท้าทายความเป็นมนุษย์ที่ความจะแสวงหา มิใช่เพียงแต่คว้าใครบางคนขึ้นมาแล้ว "มีเซ็กซ็" ให้ผ่าน ๆ ไปเหมือนคนส่วนใหญ่ในขณะนี้
เมื่อ รักกันเต็มอิ่มแล้ว แม้เซ็กซ์จะไม่อิ่มเอมใจเท่าที่ปรารถนาไว้ก็ไม่เป็นไรหรอก เพราะมนุษย์มักจินตนาการในสิ่งที่อยากได้เกินความเป็นจริงเสมอ
ไม่ มีใครเติมเต็มความรักและเซ็กซ์ให้กับอีกฝ่ายหนึ่งได้เต็มร้อยหรอกต่างก็กระ พร่องกระแพร่งไม่ถูกใจอีกฝ่ายหนึ่งทั้งนั้น แม้จะตั้งใจและทำเต็มที่แล้วก็ตาม
จงใช้การร่วมรักเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งของความรัก ต่อคนที่เรารักเท่านั้น
แต่อย่าแปลความหมายว่า รักมากเท่าไร เซ็กซ์ต้องมากและดีเท่านั้น
เพราะ มีการแสดงออกของความรักทางด้านอื่น ๆ ได้อีกมากมาย เช่น ความอ่อนโยน เป็นมิตร ใส่ใจ ดูแล ร่วมทุกข์ร่วมสุข การให้ อภัย การรับผิดชอบ
สุดท้ายมนุษย์ก็จะอยู่กับความรักที่คุ้นเคยได้อย่างเป็นสุข นานแสนนาน
และสุดท้าย...เซ็กซ์ของมนุษย์ที่เป็นคู่รักที่แม้จะรักกันมาก ก็จะค่อย ๆ คลายลง ลดลง หรือไม่มีเลย ซึ่งก็เป็นปกติในยามชรามากขึ้น
บาง คู่ที่มีความรักและแต่งงานแล้วแต่ไม่ค่อยพอใจเรื่องเซ็กซ์ มาปรึกษาผมก็แนะนำให้เขาเปิดใจกัน ดูว่าเราและเขาจะทำได้แค่ไหน ให้นึกถึงความรักที่มีต่อกันมากกว่าเซ็กซ์
บาง ทีสามีชอบเซ็กซ์แบบโลดโผนพิสดาร เพราะเคยเที่ยวหญิงบริการหรือดูหนังโป๊มากไป ก็มาคาดหวังจากภรรยาซึ่งทำไม่ได้ ก็ผิดหวัง ผมแนะนำให้เขาลดการดูหนังโป๊ลง อย่านึกถึงหรือเปรียบเทียบกับแฟนเก่าหรือหญิงให้บริการ ขอให้อยู่กับความเป็นคนธรรมดาและแคร์ที่จิตใจกับมากขึ้น...จะดีกว่า
ใน ยามจะร่วมรักกันก็ควรมีสมาธิ อยู่กันตามลำพังในสถานที่สงบ สบาย(ไม่มีลูกกวน) มีจิตใจจดจ่ออยู่กับคู่ของตน ฟังเพลงเบาๆ ไม่ควรเปิดทีวีหรือดูหนังโป๊ไปด้วย ซึ่งจะเกิดการเปรียบเทียบ ทำให้มักผิดหวังและเป็นการรบกวนสมาธิ
ควร พัฒนาดูแลสุขภาพกายให้ดี ไม่มีกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ ลดน้ำหนักลงบ้าง และบอกกันแบบนุ่มนวลว่าต้องการแบบไหนอย่างไร ถ้าให้กันได้ก็ให้กัน ถ้าให้ไม่ได้ก็ไม่เป็นไร ให้นึกถึง ใจ-ถึง-ใจ มากกว่า
อ่านถึงตรงนี้คงจะรู้ว่าควรจะพัฒนา "การมีเซ็กซ์" ให้เป็น "การร่วมรัก" ซึ่งมีความหมายลึกซึ้งกับชีวิตมากกว่า
ส่วนการจะหาคนรัก มารัก และถูกรัก เพื่อให้เกิดกิจกรรม "การร่วมรัก" ได้หรือไม่นั้น
ขึ้นกับบุพเพสันนิวาส
และธรรมะจัดสรรของแต่ละคนแล้วล่ะครับ
ที่มา: ใช้ชีวิต...อย่างผู้ชนะ / ผู้เขียน: ศาสตราจารย์ ดร.นายแพทย์ วิทยา นาควัชระ